กำไร 3Q68 หดตัว YoY แต่เติบโต QoQรายงานกำไร 3Q68 -1%YoY แต่ +8%QoQ คาดทางด่วน Double Deck ลงนามในเดือน ธ.ค.68 นี้ คงประมาณการปี 68 ที่ 3.88 พันลบ. เติบโต 3%YoY คงคำแนะนำ “ซื้อ” พร้อมปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 69 ที่ 8.50 บาท Investment Highlightรายงานกำไร 3Q68 -1%YoY แต่ +8%QoQ รายงานกำไร 3Q68 ที่ 1,079 ลบ. –1%YoY แต่ +8%QoQ โดยได้แรงหนุนจากเงินปันผลรับ 233 ลบ.จาก TTW แต่รายได้จากการให้บริการรวมอ่อนตัวลง 1%YoY แต่เติบโต 8%QoQ สู่ 4.3 พันลบ. เนื่องจากรายได้ธุรกิจทางพิเศษปรับตัวขึ้น 8%QoQ สู่ 2.24 พันลบ. จากจำนวนรถยนต์ที่ผ่านทางพิเศษเพิ่มขึ้น 2%QoQ สู่ 3.31 ล้านคันหลังโรงเรียนกลับมาเปิดการเรียนในเดือนพ.ค. และธุรกิจระบบรางปรับตัวขึ้น 9%QoQ สู่ 1.77 พันลบ. จากโรงเรียนกลับมาเปิดเรียนในเดือน พ.ค. หนุนให้จำนวนผู้ใช้ระบบรางเพิ่มขึ้น ด้านอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้น 2.3%QoQ สู่ 44.4% จากต้นทุนส่วนใหญ่เป็นต้นทุนคงที่ ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายอยู่ที่ 6.9% ลดลง 1.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เมื่อพิจารณาเป็นตัวเงินลดลง 28 ลบ. สู่ 300 ลบ. ทั้งนี้ รายงานกำไร 9M68 ที่ 2.94 พันลบ. เพิ่มขึ้น 1%YoY และคิดเป็น 76% ของประมาณการปี 68
คาดทางด่วนยกระดับชั้นที่ 2 (Double Deck) ลงนามในเดือน ธ.ค.68 นี้ผู้บริหารคาดว่าโครงการทางพิเศษยกระดับชั้นที่ 2 (Double Deck) จากงามวงศ์วาน-พระราม 9 ระยะทาง 20.09 กม. วงเงิน 34,800 ล้านบาทอยู่ระหว่างเสนอ ครม. อนุมัติตาม พรบ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 คาดว่าจะลงนามสัญญาได้ภายในธันวาคม 2568 โดยหากโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จบริษัทจะลดค่าทางด่วนในเมืองเหลือไม่เกิน 50 บาท (จากเดิม 90 บาท) และได้รับการขยายสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 2 และทางด่วนบางปะอิน-ปากเกร็ดออกไปอีก 22 ปี 5 เดือน อีกทั้งปรับส่วนแบ่งรายได้ค่าผ่านทางในเมืองเพื่อชดเชยให้แก่บริษัทจากเดิม (กทพ.:BEM) 60:40 เป็น 50:50 โดยบริษัทคาดว่าหลังการก่อสร้างทางด่วนยกระดับชั้นที่ 2 (Double Deck) แล้วเสร็จจะช่วยหนุนปริมาณผู้ใช้ทางเพิ่มขึ้นประมาณ 10-15%
คงประมาณการปี 68 ที่ 3.88 พันลบ. เติบโต 3%YoYฝ่ายวิจัยคงคาดการณ์รายได้และกำไรปี 68 ที่ 1.8 หมื่นลบ. และ 3.88 พันลบ. เติบโต 6%YoY และ 3%YoY ตามลำดับ โดยได้รับแรงหนุนจากนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย และการเปิดให้บริการโครงการ Dusit Central Park ในเดือน ก.ย. 68 ช่วยหนุนให้ประชาชนใช้บริการรถไฟฟ้สายสีน้ำเงินเพิ่มขึ้น ขณะที่เราคาดว่าผลประกอบการ 4Q68 จะอ่อนตัวลง QoQ เนื่องจากไม่มีเงินปันผลรับเหมือนใน 3Q68 ทั้งนี้ เราคาดการณ์รายได้และกำไรปี 69 จะอยู่ที่ราว 1.97 หมื่นลบ. และ 4.12 พันลบ. เติบโต 5%YoY และ 6%YoY ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมี Upside จากโครงการทางด่วนยกระดับชั้นที่ 2 (Double Deck) ที่คาดว่าจะเซ็นสัญญากับรัฐบาลได้ภายในปี 68 และเริ่มก่อสร้างในปี 69 โดยจะใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปีเป็นตัวหนุนผลประกอบการในอนาคต
คงคำแนะนำ “ซื้อ” พร้อมปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 69 ที่ 8.50 บาทเราประเมินราคา BEM ด้วยวิธี DCF โดยใช้สมมติฐาน WACC ที่ 4.18% พร้อมปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 69 ที่ 8.50 บาท ซึ่งเท่ากับราคาเหมาะสมปี 68 ซึ่งมี Upside ราว 52% และมี Upside จากโครงการทางด่วน Double Deck เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”
Analyst: Nuttawut Wongyaowarak 02-672-5805 nuttawut@globlex.co.th
|