รมว.พลังงาน คาดปี 69 มองราคาพลังงานยังไม่ผันผวน รับปริมาณผลิตน้ำมันและก๊าซยังอยู่ในระดับสูง สั่งจับตาขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ภาวะเศรษฐกิจโลก และเทรนด์สิ่งแวดล้อม ยันปรับโครงสร้างราคาก๊าซเพื่อความเป็นธรรม สั่งช่วยเหลือด้านพลังงาน แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้ใกล้ชิด นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่าประเมินแนวโน้มราคาพลังงานปี 69 ไม่น่ากังวล เพราะคาดว่าจะราคาคงไม่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นไปมากกว่านี้ เนื่องจากทั้งน้ำมันและก๊าซมีการทยอยเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาก๊าซ LNG หลังจากเกิดความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนพบว่าทั่วโลกมีการลงทุนสำรวจและขุดเจาะจำนวนมาก จึงทำให้ปริมาณการผลิตปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น พร้อมเชื่อว่าหากไม่เกิดเหตุการณ์อะไรพิเศษในปีหน้าราคาก๊าซ LNG คงไม่น่ามีผลกระทบมากนัก 
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในปีหน้าคือ ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ เช่น กรณีความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนว่าข้อตกลงด้านสันติภาพจะสามารถพูดคุยกันได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่มีการยกระดับการสู้รบเพิ่มขึ้น คาดว่าคงส่งผลกระทบไม่มากแล้วหรือกลุ่มยุโรปจะยกระดับการคว่ำบาตรต่อประเทศรัสเซียเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ รวมถึงภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีผลต่อทิศทางราคาน้ำมันให้ลดลง เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ได้ดีมากนัก นอกจากนี้ยังต้องจับตาเทรนด์สิ่งแวดล้อมว่าแต่ละภูมิภาคจะออกมาตรการใหม่ๆเพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอากมากขึ้น ส่วนการปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติใหม่ คาดว่าจะมีผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าของประชาชนราว 2-3 สตางค์ ซึ่งการปรับครั้งนี้เป็นการปรับเพื่อความเป็นธรรมสำหรับกลุ่มปิโตรเคมีที่เขาไม่ได้ใช้ LNG แต่ต้องไปรับราคา Pool Gas ที่มีราคา LNG ผสมเนี่ยไม่ถูกต้องเท่าไหร่ ทำให้สูตราคาก๊าซใหม่จะให้เขาใช้ราคาก๊าซจากอ่าวไทย แต่ว่ากำไรที่ได้จากโรงแยกก๊าซจะคืนกลับมาและลดราคาก๊าซให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งมองว่าเป็นสูตรที่สร้างความเป็นธรรมมากกว่าที่ผ่านมา สำหรับมาตรการให้ความช่วยเหลือและเฝ้าระวังในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ โดยระบุว่า แม้ว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะเริ่มคลี่คลายแล้ว แต่ยังมีบางพื้นที่ที่ยังคงได้รับผลกระทบและต้องเร่งฟื้นฟู ซึ่งกระทรวงพลังงานได้รับการประสานจากรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานในสังกัด และผู้ค้าน้ำมันในการมอบเงินบริจาคและให้การสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือและฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสำนักงานพลังงานจังหวัดสงขลาได้ตั้งศูนย์อำนวยการด้านพลังงานเพื่อช่วยเหลือเหตุอุทกภัยในจังหวัดสงขลา เน้นย้ำถึงความสำคัญของการดูแลระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานเพื่อความปลอดภัยและความมั่นใจไม่ให้กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะการตรวจสอบคุณภาพน้ำมันไม่ให้มีการปนเปื้อนจากน้ำท่วมเพื่อเปิดให้บริการประชาชนโดยเร็ว พร้อมบริหารจัดการติดตามการขนส่งน้ำมันและก๊าซหุงต้ม (LPG) ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงสำคัญที่ครัวเรือนต้องใช้ในการประกอบอาหารและดำรงชีพ โดยสถานีบริการน้ำมันทั้ง 9 จังหวัด สามารถเปิดให้บริการได้ 79% หรือ 414 แห่งจากทั้งหมด 521 แห่ง ส่วนที่เหลือจะเร่งฟื้นฟูและเร่งเปิดให้บริการซึ่งคาดว่าจะกลับมาให้บริการได้ 100% ภายใน 1 - 2 สัปดาห์ ส่วนโรงบรรจุก๊าซ LPG สามารถเปิดให้บริการได้ 97% (96 แห่งจากหมด 99 แห่ง) คาดว่าจะกลับมาให้บริการได้ 100% ภายใน 1 สัปดาห์ ส่วนในด้านไฟฟ้า แม้ว่าโรงไฟฟ้าจะนะจำเป็นต้องหยุดเดินเครื่องชั่วคราว ซึ่งได้สั่งการให้โรงไฟฟ้าใกล้เคียงเช่นโรงไฟฟ้าขนอมและโรงไฟฟ้ากระบี่เดินเครื่องเต็มศักยภาพเพื่อรับมือความต้องการใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะในช่วงที่ประชาชนฟื้นฟูบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย โดยโรงไฟฟ้าจะนะคาดว่าจะใช้เวลาช่อมแซมประมาณ 2 เดือนในการกลับมาเดินเครื่องได้ ทั้งนี้กระทรวงพลังงานยังคงให้ความช่วยเหลือพี่น้องภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบัน ทั้งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ส่งถุงยังชีพรวมกว่า 47,000 ถุง น้ำดื่มกว่า 104,000 ขวด นอกจากนั้น บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) ยังมอบน้ำมันสนับสนุนการทำงานของจิตอาสาและกองทัพบกรวม 8.4 ล้านบาท และส่งมอบก๊าซหุงต้มกว่า 930 กิโลกรัม (62 ถัง) สำหรับใช้ในโรงครัวในพื้นที่ และจัดเตรียมอบเพิ่มเติมให้กับกองบัญชาการทหารสูงสุดและหน่วยงานอื่นๆ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ อีกทั้งได้รับความร่วมมือจากผู้ค้าน้ำมันภาคเอกชน มอบน้ำมันรวม 1.37 ล้านบาท และก๊าซหุงต้มเพิ่มเติมอีกและเงินช่วยเหลือ รวมทั้งยังได้ประสานงานและสนับสนุนงานต่างๆ ที่ได้รับการร้องขอจากหน่วยงานในพื้นที่ เช่น การมอบถังออกซิเจนทางการแพทย์ขนาด 0.5 คิว จำนวน 200 ถัง ให้แก่ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์และโรงพยาบาลหาดใหญ่ และเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงจำนวน 30 เครื่อง สำหรับกองทัพเรือเพื่อสนับสนุนภารกิจฟื้นฟูที่อยู่อาศัยของประชาชน เครื่องอุปโภคบริโภคอย่างต่อเนื่อง อาทิ ชุดเวชภัณฑ์ นมกล่อง กระดาษชำระ แชมพู ไฟขาย เครื่องนอน เสื้อผ้า เป็นต้น ส่วนในด้านการฟื้นฟู กฟผ. ได้ประสานกันกับมูลนิธินายช่างไทย โจอาสา พื้นฟูระบบไฟฟ้าแก่อาคารและบ้านเรือนประชาชน โดยจะดำเนินการในระหว่างวันที่ 5 - 9 ธ.ค.68 อีกทั้ง ปตท.ได้เปิดให้บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรองในสถานีบริการ 5 แห่ง ในจังหวัดสงขลา สำหรับรถยนต์ 500 คันและรถจักรยานยนต์ 2,500 คันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย "ผมขอแสดงความห่วงใยและเป็นกำลังใจอย่างยิ่งกับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในภาคใต้ทุกคน และขอส่งกำลังใจไปถึงทีมงานเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่กำลังให้การช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง เรายังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ยังมีการทยอยส่งเครื่องอุปโภคบริโภค เวชภัณฑ์ ถุงยังชีพและน้ำดื่มอย่างต่อเนื่อง สั่งการให้เร่งตรวจสอบคุณภาพน้ำมันในสถานีบริการให้ได้คุณภาพ จัดส่งก๊าซหุงต้มเพื่อใช้ในโรงครัวสำหรับประกอบอาหาร รวมทั้งขอให้ติดตามการขนส่งน้ำมันและก๊าซหุงต้มให้เพียงพอต่อความการในพื้นที่ รวมทั้งได้เร่งให้โรงไฟฟ้าที่ยังไม่ได้รับผลกระทบเดินเครื่องเต็มศักยภาพรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าของประชาชน ผมขอยืนยันว่าจะกำชับและสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนโดยจะต้องไม่หยุดชะงัก เพื่อให้พี่น้องชาวภาคใต้ได้ผ่านพ้นสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ไปได้อย่างปลอดภัยและเร็วที่สุด" นายอรรถพล กล่าว |