สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย ได้รวบรวมมุมมอง ของบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำที่ได้ประเมินทิศทางของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT จากบทวิเคราะห์ที่ออกมาในวันที่ 4 ธ.ค. 68

สรุปปัจจัยบวก- การปรับขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออก (PSC) สำหรับต่างชาติ เพิ่มขึ้น 390 บาท เป็น 1,120 บาท/คน สูงกว่าที่ตลาดและโบรกเกอร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ ซึ่งจะช่วยหนุนกำไรระยะยาว (บล.บัวหลวง, บล.ทิสโก้, บล.หยวนต้า (ประเทศไทย), บล.ฟิลลิป, บล.เอเซียพลัส, บล.เคจีไอ, บล.ดาโอ (ประเทศไทย), บล.พาย)

- เงื่อนไขแก้ไขสัญญาสัมปทาน King Power โดยรวมดีกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากผลกระทบด้านลบต่อรายได้ขั้นต่ำ (MG) น้อยกว่าที่ตลาดประเมินไว้ (บล.บัวหลวง, บล.ฟิลลิป, บล.เอเซียพลัส, บล.เคจีไอ, บล.ดาโอ (ประเทศไทย))

- รายได้จากสัญญาสัมปทาน King Power จะดีกว่าที่เคยใส่ไว้ในโมเดลประมาณ 5% โดยเฉพาะการมีส่วนแบ่งรายได้ (Revenue Sharing) 35% ของยอดใช้จ่ายส่วนเกิน (บล.บัวหลวง, บล.ทิสโก้, บล.พาย, บล.เอเซียพลัส)

- กำไรสุทธิมีโอกาสเติบโตแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในปีงบประมาณ 2569-2570 จากการรับรู้ผลบวกของ PSC และการเติบโตของผู้โดยสาร (บล.บัวหลวง, บล.หยวนต้า (ประเทศไทย), บล.ฟิลลิป, บล.พาย, บล.เอเซียพลัส, บล.ดาโอ (ประเทศไทย))

- การปรับขึ้น PSC สะท้อนทิศทางที่เปลี่ยนไป ในการนำเงินไปลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านสนามบิน และผลักดันไทยเป็นฮับการบิน (บล.เอเซียพลัส)

- การขยายอายุสัญญาสุวรรณภูมิอีก 2 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการปิดซ่อมแซมอาคารปัจจุบัน (บล.ทิสโก้, บล.หยวนต้า (ประเทศไทย), บล.ฟิลลิป, บล.พาย, บล.เอเซียพลัส)

- สัญญาณนักท่องเที่ยวจีนกลับมา และการจอง Slot เพิ่มขึ้นเป็น Upside ในอนาคต (บล.บัวหลวง)

สรุปปัจจัยลบ- ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น Outperform ตลาดไปมากแล้ว ทำให้ระยะสั้นอาจมีแรงขายแบบ "Sell on fact" หลังประกาศข่าวดี (บล.ทิสโก้, บล.หยวนต้า (ประเทศไทย), บล.ดาโอ (ประเทศไทย), บล.เอเซียพลัส)

- Upside ของราคาหุ้นมีจำกัด เมื่อเทียบกับราคาปัจจุบัน (บล.หยวนต้า (ประเทศไทย), บล.กรุงศรี)

- ความเสี่ยงสภาพคล่องของ King Power หรือเกิดโรคระบาด/เศรษฐกิจถดถอย/ความไม่สงบทางการเมืองของไทย (บล.เคจีไอ)

- แม้ PSC จะขึ้นสูง แต่ PSC สำหรับผู้โดยสารในประเทศไม่มีการเปลี่ยนแปลง (บล.ทิสโก้)